สวัสดีครับ พบกับ #Forexมือใหม่ ช่วงที่ทั้งผู้อ่านและผู้เขียนจะมาเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันว่า
‘เรื่องของการลงทุน (Forex) ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่เราคิดกัน’
ต่อจากตอนที่แล้ว ตอนนี้ก็เป็น EP.2 ‘กราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart)’
ที่ยังคงรายละเอียด และรวบรวมมาให้ทุกท่านได้อ่านต่อแล้ว
เชิญติดตามได้เลยครับ
กราฟ ‘แท่งเทียน’ รูปแบบต่างๆ (ต่อ)
13. Three Inside Up VS Three Inside Down
‘ขาขึ้น (Three Inside Up)’
ลักษณะ : เป็นรูปแบบที่มีพื้นฐานมาจาก harami โดยเพิ่ม
แท่งเทียนแท่งที่สามเข้ามา
ความหมาย : การเพิ่มแท่งเทียนแท่งที่สามเข้ามา
เพื่อเป็นการยืนยันว่า ทิศทางจะสามารถปรับเป็นขาขึ้นได้
แสดงให้เห็นว่าแรงซื้อสามารถเอาชนะแรงขาย (ทะลุแนวต้านได้)
หากจะทำให้น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น แท่งเทียนแท่งที่สามควรเป็นสีเขียวที่มีราคาเปิดกระโดดจากแท่งที่สอง หรือมีราคาปิดของแท่งเทียน
สีเขียวที่ระดับราคาสูงกว่าราคาเปิดของแท่งเทียนสีแดง
‘ขาลง (Three Inside Down)’
ลักษณะ : เป็นรูปแบบที่มีพื้นฐานมาจาก harami โดยเพิ่ม
แท่งเทียนแท่งที่สามเข้ามาเช่นกัน
ความหมาย : การเพิ่มแท่งเทียนแท่งที่สามเข้ามา
เพื่อเป็นการยืนยันว่า ทิศทางจะสามารถปรับเป็นขาลงได้
แสดงให้เห็นว่าแรงขายสามารถเอาชนะแรงซื้อ (ทะลุแนวรับได้)
หากจะทำให้น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น แท่งเทียนแท่งที่สามควรเป็นสีแดงที่
มีราคาเปิดกระโดดจากแท่งที่สอง หรือมีราคาปิดของแท่งเทียน
สีแดงที่ระดับราคาต่ำกว่าราคาเปิดของแท่งเทียนสีเขียว
14. Tweezer Bottoms vs Tweezer Tops
‘ขาขึ้น (Tweezer Bottoms)’
ลักษณะ : แท่งเทียนคู่ที่มีจุดต่ำสุดเท่ากัน โดยจุดต่ำสุดของ
แท่งเทียนทั้งสอง หมายรวมถึงไส้เทียนและตัวเทียน รวมทั้ง
แท่งเทียนแบบ Doji ด้วย
ความหมาย : Tweezers Bottoms ยังไม่สามารถบอกถึง
การกลับตัวของแนวโน้มได้ชัดเจนนัก หากแท่งเทียนตัวถัดไป
เกิดสวิงต่ำหรือสูงขึ้น มันจะกลายเป็นตำแหน่งสูงสุดหรือต่ำสุดของสวิงทันที และหากมีแรงเหวี่ยงที่วกกลับอีก เราก็สามารถใช้มันเป็นแนวรับหรือแนวต้านได้
ดังนั้น Tweezers Bottoms จึงเป็นตำแหน่งแท่งเทียนที่บอกถึงสัญญาณการพักตัวชั่วคราวของ Bullish มากกว่า
การเป็นสัญญาณของการกลับตัว
‘ขาลง (Tweezer Tops)’
ลักษณะ : แท่งเทียนคู่ที่มีจุดสูงสุดเท่ากัน โดยจุดสูงสุดของ
แท่งเทียนทั้งสอง หมายรวมถึงไส้เทียนและตัวเทียน รวมทั้ง
แท่งเทียนแบบ Doji ด้วย
ความหมาย : weezers Tops ยังไม่สามารถบอกถึง
การกลับตัวของแนวโน้มได้ชัดเจนเช่นกัน หากแท่งเทียนตัวถัดไปเกิดสวิงต่ำหรือสูงขึ้น มันจะกลายเป็นตำแหน่งสูงสุดหรือต่ำสุด
ของสวิงทันที และหากมีแรงเหวี่ยงที่วกกลับอีก เราก็สามารถใช้มันเป็นแนวต้านหรือแนวรับได้เลย
ดังนั้น Tweezers Tops จึงเป็นตำแหน่งแท่งเทียนที่บอกถึงสัญญาณการพักตัวชั่วคราวของ ฺBearish มากกว่า
การเป็นสัญญาณของการกลับตัว
15. Bullish Abandoned Baby VS Bearish Abandoned Baby
‘ขาขึ้น (Bullish Abandoned Baby)’
ลักษณะ : เป็นแท่งเทียน 2 แท่ง ที่มีรูปเครื่องหมายบวก (Doji Star) อยู่ตรงกลาง ซึ่ง Doji นั้น ได้กระโดดลงมาห่างจากแท่งเทียนสีแดงก่อนหน้า เกิดเป็นช่องว่างขึ้น แล้วหลังจากนั้นก็มี
แท่งเทียนสีเขียวกระโดดขึ้นห่างจากช่องว่างแล้วมีไส้เทียนยื่นออกมาจากด้านบนหรือด้านล่าง
ความหมาย : สัญญาณบอกถึงแนวโน้มที่ลงจะเปลี่ยนเป็นขาขึ้น
‘ขาลง (Bearish Abandoned Baby)’
ลักษณะ : เป็นแท่งเทียน 2 แท่ง ที่มีรูปเครื่องหมายบวก (Doji Star) อยู่ตรงกลาง ซึ่ง doji นั้น ได้กระโดดขึ้นห่างจากแท่งเทียน
สีเขียวก่อนหน้า เกิดเป็นช่องว่างขึ้น แล้วหลังจากนั้นก็มี
แท่งเทียนสีเเดงกระโดดลงห่างจากช่องว่างแล้วมีไส้เทียนยื่นออกมาจากด้านบนหรือด้านล่าง
ความหมาย : สัญญาณบอกถึงแนวโน้มที่ขึ้นจะเปลี่ยนเป็นขาลง
16. Bullish Marubozu VS Bearish Marubozu
‘ขาขึ้น (Bullish Marubozu)’
ลักษณะ : เป็นแท่งเทียนสีเขียวที่มีแต่ตัวเทียน ไม่มีไส้เทียน
ความหมาย : ราคาเปิดเท่ากับราคาต่ำสุด และราคาปิดเท่ากับราคาสูงสุด แสดงถึงภาวะของตลาดที่อยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างชัดเจน ตลาดยังคงจะอยู่ในขาขึ้นต่อไป อาจจะมีแกว่งลงบ้าง แต่ยังมีโอกาสที่จะกลับสู่ภาวะขาขึ้นต่อไป
‘ขาลง (Bearish Marubozu)’
ลักษณะ : เป็นแท่งเทียนสีแดงที่มีแต่ตัวเทียน ไม่มีไส้เทียน
ความหมาย : ราคาเปิดเท่ากับราคาสูงสุด และราคาปิดเท่ากับราคาต่ำสุด แสดงถึงภาวะของตลาดที่อยู่ในช่วงขาลงอย่างชัดเจน ตลาดยังคงจะอยู่ในช่วงขาลงต่อไป อาจจะมีแกว่งขึ้นบ้าง แต่ยังมีโอกาสที่จะกลับสู่ภาวะขาลงต่อไป
17. Bullish Spinning Top VS Bearish Spinning Top
‘ขาขึ้น (Bullish Spinning Top)’
ลักษณะ : เป็นแท่งเทียนสีเขียวที่มีตัวเทียนขนาดเล็กและสั้น
อยู่ช่วงกลางระหว่างไส้เทียน
ความหมาย : แรงซื้อและแรงขายมีปริมาณเท่าๆ กัน
ไม่มีความได้เปรียบ – เสียเปรียบ ราคาปิดไม่ต่างจากราคาเปิด ตลาดยังคงมีความลังเลและมีแนวโน้มที่ไม่ชัดเจน
เพื่อความมั่นใจทิศทางของตลาดควรรอแท่งเทียนแท่งต่อไป เช่น กรณีกลับทิศทางเป็นขาลงจะเป็นสีแดง ถ้ายังอยู่ในขาขึ้นจะเป็น
สีเขียว
‘ขาลง (Bearish Spinning Top)’
ลักษณะ : เป็นแท่งเทียนสีแดงที่มีตัวเทียนขนาดเล็กและสั้น
อยู่ช่วงกลางระหว่างไส้เทียน
ความหมาย : ทั้งฝ่ายซื้อและฝั่งขายต่างแย่งชิงราคากัน ยังเลือกทิศทางไม่ได้ ตลาดยังคงมีความลังเล ไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน
เพื่อความมั่นใจทิศทางของตลาด ควรรอแท่งเทียนแท่งต่อไป เช่น กรณีกลับทิศทางเป็นขาขึ้นจะเป็นสีเขียว ถ้ายังอยู่ในช่วงขาลงจะเป็นสีแดง
18. Bullish Long – legged doji VS Bearish Long – legged doji
‘ขาขึ้น (Bullish Long – legged doji)’
ลักษณะ : เป็นแท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้เป็นช่วง
ขาลง แล้วเกิดแท่งเทียนที่มีลักษณะของไส้เทียนด้านบนและ
ด้านล่างเป็นเส้นยาวตรงที่มีขนาดเท่ากันหรือใกล้เคียงกัน
ส่วนตัวเทียนมีลักษณะเล็ก
ความหมาย : มีแรงซื้อและแรงขายในปริมาณมาก ทำให้ราคา
มีความผันผวน ไม่มีความชัดเจน ส่งผลให้ราคาปิดใกล้เคียงหรือเท่ากับราคาเปิด จึงยังสรุปทิศทางของแนวโน้มได้ไม่แน่นอน
เพื่อความมั่นใจในการกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้น
จึงควรรอแท่งเทียนสีเขียวอีกแท่งที่มีราคาเปิดกระโดดขึ้นไป
‘ขาลง (Bearish Long – legged doji)’
ลักษณะ : เป็นแท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้เป็นช่วง
ขาขึ้น แล้วเกิดแท่งเทียนที่มีลักษณะของไส้เทียนด้านบนและ
ด้านล่างเป็นเส้นยาวตรงที่มีขนาดเท่ากันหรือใกล้เคียงกัน
ส่วนตัวเทียนมีลักษณะเล็กเช่นกัน
ความหมาย : มีแรงซื้อและแรงขายในปริมาณมาก ทำให้ราคา
มีความผันผวน ไม่มีความชัดเจน ส่งผลให้ราคาปิดใกล้เคียงหรือเท่ากับราคาเปิด จึงยังสรุปทิศทางของแนวโน้มได้ไม่แน่นอน
เพื่อความมั่นใจในการกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้น
จึงควรรอแท่งเทียนสีแดงอีกแท่งที่มีราคาเปิดกระโดดขึ้นไป
19. Bullish Kicking Pattern VS Bearish Kicking Pattern
‘ขาขึ้น (Bullish Kicking Pattern)’
ลักษณะ : เป็นแท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้เป็นช่วงขาลง โดยในช่วงขาลงนั้น มีแท่งเทียนสีแดงแบบ Marubozu (แท่งเทียนที่ไม่มีไส้ทั้งด้านบนและล่างหรืออาจมีแต่สั้นมาก) เกิดขึ้น
ต่อจากนั้นเกิดแนวโน้มขาขึ้นเป็นแท่งเทียนสีเขียวแบบ Marubozu เช่นกัน โดยมีราคาปิดที่กระโดดขึ้นจากแท่งเทียนสีแดง
ความหมาย : บอกถึงสัญญาณทิศทางของการกลับตัว
ที่มีความน่าเชื่อถือสูง หากจะให้มั่นใจยิ่งขึ้น ควรรรอแท่งเทียน
สีเขียวอีกแท่ง ที่มีราคาเปิดกระโดดหรือมีราคาปิดที่เหนือขึ้นไป
‘ขาลง (Bearish Kicking Pattern)’
ลักษณะ : เป็นแท่งเทียนที่เกิดขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้เป็นช่วงขาขึ้น โดยในช่วงขาขึ้นนั้น มีแท่งเทียนสีเขียวแบบ Marubozu (แท่งเทียนที่ไม่มีไส้ทั้งด้านบนและล่าง หรืออาจมีแต่สั้นมาก) เกิดขึ้น
ต่อจากนั้นเกิดแนวโน้มขาลงเป็นแท่งเทียนสีแดงแบบ Marubozu เช่นกัน โดยมีราคาปิดที่กระโดดลงจากแท่งเทียนสีเขียว
ความหมาย : บอกถึงสัญญาณทิศทางของการกลับตัว
ที่มีความน่าเชื่อถือสูง หากจะให้มั่นใจยิ่งขึ้น ควรรรอแท่งเทียน
สีแดงอีกแท่ง ที่มีราคาเปิดกระโดดหรือมีราคาปิดที่เหนือขึ้นไป
20. 3 Bullish Soldier VS 3 Bearish Soldier
‘ขาขึ้น (3 Bullish Soldier)’
ลักษณะ : เป็นแท่งเทียนสีเขียว 3 แท่ง ที่เรียงสูงขึ้นเรื่อยๆ
ในแนวโน้มขาขึ้น โดยแท่งเทียนตัวหลังอาจเท่ากันหรือยาวกว่าแท่งเทียนก่อนหน้า
ความหมาย : บอกถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาขึ้น
แต่ข้อควรระวัง คือ หากแท่งเทียนที่ออกมามีขนาดสั้นกว่าเดิมเรื่อยๆ เช่น แท่งที่ 3 สั้นกว่าแท่งที่ 2 และแท่งที่ 2 สั้นกว่าแท่งแรก ถึงแม้จะยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นก็ตาม แต่อาจจะมีการกลับทิศทางลงได้ แทนที่จะอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นต่อไป
‘ขาลง 3 (Bearish Soldier)’
ลักษณะ : เป็นแท่งเทียนสีแดง 3 แท่ง ที่เรียงต่ำลงเรื่อยๆ
ในแนวโน้มขาลง โดยแท่งเทียนตัวหลังอาจเท่ากันหรือยาวกว่า
แท่งเทียนก่อนหน้า
ความหมาย : บอกถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาลง
แต่ข้อควรระวัง คือ หากแท่งเทียนที่ออกมามีขนาดสั้นกว่าเดิมเรื่อยๆ เช่น แท่งที่ 3 สั้นกว่าแท่งที่ 2 และแท่งที่ 2 สั้นกว่าแท่งแรก ถึงแม้จะยังอยู่ในแนวโน้มขาลงก็ตาม แต่อาจจะมีการกลับทิศทางขึ้นได้ แทนที่จะอยู่ในแนวโน้มขาลงต่อไป
21. Bullish On Neck Line VS Bearish On Neck Line
‘ขาขึ้น (Bullish On Neck Line)’
ลักษณะ : เป็นแท่งเทียนสีเเดงที่เกิดขึ้นตามหลังแท่งเทียนสีเขียวก่อนหน้าในช่วงขาขึ้น และมีราคาปิดสูงกว่าราคาสูงสุดของ
แท่งเทียนก่อนหน้าเช่นกัน
ความหมาย : แนวโน้มที่ขึ้นมานั้นจะยังคงขึ้นต่อไป และหาก
หลังจากนี้เกิดแท่งเทียนอีกแท่ง (สีอะไรก็ได้) ที่มีราคาปิด – เปิดต่ำกว่าราคาต่ำสุดของแท่งเทียนสีแดง ถือเป็นการยืนยันว่า
ช่วงขาขึ้นนี้ยังคงจะดำเนินต่อไป
‘ขาลง (Bearish On Neck Line)’
ลักษณะ : เป็นแท่งเทียนสีเขียวที่เกิดขึ้นตามหลังแท่งเทียนสีแดงก่อนหน้าในช่วงขาลง และมีราคาปิดต่ำกว่าราคาต่ำสุดของ
แท่งเทียนก่อนหน้าเช่นกัน
ความหมาย : แนวโน้มที่ลงมานั้นจะยังคงลงต่อไป และหาก
หลังจากนี้เกิดแท่งเทียนอีกแท่ง (สีอะไรก็ได้) ที่มีราคาปิด – เปิดต่ำกว่าราคาต่ำสุดของแท่งเทียนสีเขียว ถือเป็นการยืนยันว่า
ช่วงขาลงนี้ยังคงจะดำเนินต่อไป
22. Bullish Separating Lines VS Bearish Separating Lines
‘ขาขึ้น (Bullish Separating Lines)’
ลักษณะ : เป็นแท่งเทียนสีเขียวที่เกิดขึ้นในช่วงขาขึ้น โดยตามหลังแท่งเทียนสีแดงก่อนหน้า ซึ่งราคาเปิดของแท่งเทียนสีเขียวเท่ากับราคาปิดของแท่งเทียนสีแดง
ความหมาย : แนวโน้มขาขึ้นจะยังคงขึ้นต่อไป หากแท่งเทียนต่อไปเป็นสีเขียว จะยื่งยืนยันได้ว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้นจริง
‘ขาลง (Bearish Separating Lines)’
ลักษณะ : เป็นแท่งเทียนสีแดงที่เกิดขึ้นในช่วงขาลง โดยได้ตามหลังแท่งเทียนสีเขียวก่อนหน้า ซึ่งราคาปิดของแท่งเทียนสีแดงเท่ากับราคาเปิดของแท่งเทียนสีเขียว
ความหมาย : แนวโน้มขาลงจะยังคงลงต่อไป หากแท่งเทียนต่อไปเป็นสีแดง จะยื่งยืนยันได้ว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้นจริง
23. Bullish Tri Star VS Bearish Tri Star
‘ขาขึ้น (Bullish Tri Star)’
ลักษณะ : มี Doji เกิดขึ้น 3 ตัว โดยตัวแรกและตัวที่สองจะอยู่ในช่วงขาลงติดต่อกัน หลังจากนั้น Doji ตัวที่สามจะกระโดดกลับไปเป็นขาขึ้น ทำให้เกิดเป็นรูปคล้ายดาว 3 ดวง
ซึ่งไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก
ความหมาย : บอกถึงความไม่แน่ใจของตลาด เนื่องจากราคาซื้อเท่ากับราคาขาย ราคาเปิดเท่ากับราคาปิด ทำให้เราเกิดความลังเล สับสนในการตัดสินใจ และเมื่อราคามีการขยับตัวพลิกกลับไปเป็น
ขาขึ้นใน Doji ตัวสุดท้าย จึงเสมือนเป็นสัญญาณพลิกกลับของ
แนวโน้มจากขาลงเป็นขาขึ้นแทน
‘ขาลง (Bearish Tri Star)’
ลักษณะ : มี Doji เกิดขึ้น 3 ตัว โดยตัวแรกและตัวที่สองจะอยู่ในช่วงขาขึ้นติดต่อกัน หลังจากนั้น Doji ตัวที่สามจะตกไปเป็นขาลง ทำให้เกิดเป็นรูปคล้ายดาว 3 ดวง ซึ่งไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก
ความหมาย : บอกถึงความไม่แน่ใจของตลาด เนื่องจากราคาซื้อเท่ากับราคาขาย ราคาเปิดเท่ากับราคาปิด ทำให้เราเกิดความลังเล สับสนในการตัดสินใจ และเมื่อราคามีการขยับตัวพลิกกลับไปเป็น
ขาลงใน Doji ตัวสุดท้าย จึงเสมือนเป็นสัญญาณพลิกกลับของ
แนวโน้มจากขาขึ่้นเป็นขาลงแทน
24. Long Lower Shadow VS Long Upper Shadow
‘ขาขึ้น (Long Lower Shadow)
ลักษณะ : เป็นแท่งเทียนสีเขียวที่มีไส้เทียนด้านล่างยาวมาก
โดยที่ตัวเทียนมีขนาดสั้นและอยู่บริเวณด้านบน มีไส้เทียนด้านบนยื่นออกมาเล็กน้อย ราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด โดยมีราคาปิดใกล้เคียงกับราคาสูงสุด สาเหตุเกิดจากมีแรงซื้อเข้ามาจำนวนมาก
และรวดเร็ว จึงทำให้ราคาดิ่งสูงขึ้น
ความหมาย : แนวโน้มขาขึ้นจะยังคงขึ้นต่อไป แต่เมื่อแรงซื้อ
ถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ก็อาจเกิดการพลิกกลับจากขาขึ้นเป็นขาลงได้
เช่นกัน ดังนั้น Long Lower Shadow ยังไม่ใช่การบอกทิศทางของแนวโน้มที่ชัดเจนพอ
‘ขาลง (Long Upper Shadow)’
ลักษณะ : เป็นแท่งเทียนสีแดงที่มีไส้เทียนด้านบนยาวมาก
โดยที่ตัวเทียนมีขนาดสั้นและอยู่บริเวณด้านล่าง มีไส้เทียนด้านล่างยื่นออกมาเล็กน้อย ราคาเปิดสูงกว่าราคาปิด โดยมีราคาปิดใกล้เคียงกับราคาต่ำสุด สาเหตุเกิดจากมีแรงขายเข้ามาจำนวนมากและรวดเร็ว จึงทำให้ราคาลดต่ำลง
ความหมาย : แนวโน้มขาลงจะยังคงลงต่อไป แต่เมื่อแรงซื้อถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ก็อาจเกิดเทรนด์พลิกกลับจากขาลงเป็นขาขึ้นได้
เช่นกัน ดังนั้น Long Upper Shadow ยังไม่ใช่การบอกทิศทางของแนวโน้มที่ชัดเจนพอ
25. Bullish Meeting Line VS Bearish Meeting Line
‘ขาขึ้น (Bullish Meeting Line)’
ลักษณะ : เป็นแท่งเทียนสีเขียวในแนวโน้มขาลง ซึ่งก่อนหน้า
มีแท่งเทียนสีแดงที่มีราคาเปิดกระโดดลงจากราคาปิดของแนวโน้มขาลง โดยแท่งเทียนสีเขียวนี้ก็มีราคาเปิดที่กระโดดลงจากราคาปิดของแท่งเทียนสีแดงเช่นกัน แต่ปรับตัวขึ้นมาปิดราคาที่เท่ากันหรือใกล้เคียงกันกับราคาเปิดของแท่งเทียนสีแดงได้
ความหมาย : แรงซื้อกับแรงขายเท่ากัน แนวโน้มต่อไปอาจจะเกิดการกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้น แต่โอกาสของการกลับตัว
ยังมีน้ำหนักไม่มากพอ เมื่อเทียบกับ piercing pattern จึงควรรอยืนยันจากแท่งเทียนต่อไปที่มีราคาปิดสูงขึ้นกว่าแท่งเทียนสีเขียว
‘ขาลง (Bearish Meeting Line)’
ลักษณะ : เป็นแท่งเทียนสีแดงในแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งก่อนหน้า
มีแท่งเทียนสีเขียวที่มีราคาเปิดกระโดดขึ้นจากราคาปิดของ
แนวโน้มขาขึ้น โดยแท่งเทียนสีเเดงนี้ก็มีราคาเปิดที่กระโดดขึ้นจากราคาปิดของแท่งเทียนสีเขียวเช่นกัน แต่ปรับตัวลงมาเปิดราคาที่เท่ากันหรือใกล้เคียงกันกับราคาปิดของแท่งเทียนสีเขียวได้
ความหมาย : แรงซื้อกับแรงขายเท่ากัน แนวโน้มต่อไปอาจจะเกิดการกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลง แต่โอกาสการกลับตัวยังมีน้ำหนักไม่มากพอ เมื่อเทียบกับ Dark Cloud Cover จึงควรรอยืนยันจากแท่งเทียนต่อไปที่มีราคาปิดสูงขึ้นกว่าแท่งเทียนสีแดง
26. Bullish Stick Sandwich VS Bearish Stick Sandwich
‘ขาขึ้น (Bullish Stick Sandwich)’
ลักษณะ : เป็นเเท่งเทียน 3 แท่งที่อยู่ในช่วงขาลง โดยแท่งแรกเป็นแท่งเทียนสีแดงที่มีราคาปิดต่ำลงมาตามแนวโน้มขาลงก่อนหน้า จากนั้นแท่งที่สองเป็นแท่งเทียนสีเขียวซึ่งมีราคาปิดที่สูงกว่า
แท่งแรก และแท่งที่สามเป็นแท่งเทียนสีแดงอีกครั้ง โดยมีราคาเปิดที่สูงกว่าแท่งที่สอง แต่มีราคาปิดอยู่ในระดับเดียวกันหรือใกล้เคียงกับราคาปิดของแท่งเเรก
ความหมาย : เป็นสัญญาณบอกถึงการกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้น และเพื่อให้มั่นใจมากขึ้นควรมีแท่งเทียนสีเขียวแบบ Marubozu ที่มีราคาเปิดสูงกว่าราคาปิดของแท่งที่สามมาเป็นแท่งต่อไป
‘ขาลง (Bearish Stick Sandwich)’
ลักษณะ : เป็นเเท่งเทียน 3 แท่งที่อยู่ในช่วงขาขึ้น โดยแท่งแรกเป็นแท่งเทียนสีเขียวที่มีราคาปิดสูงขึ้นไปตามแนวโน้มขาขึ้นก่อนหน้า จากนั้นแท่งที่สองเป็นแท่งเทียนสีเเดงซึ่งมีราคาปิดต่ำกว่าแท่งแรก และแท่งที่สามเป็นแท่งเทียนสีเขียวอีกครั้ง โดยมีราคาเปิดที่ต่ำกว่าแท่งที่สอง แต่มีราคาปิดอยู่ในระดับเดียวกันหรือใกล้เคียง
กับราคาปิดของแท่งแรก
ความหมาย : เป็นสัญญาณบอกการกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลง และเพื่อให้มั่นใจมากขึ้นควรมีแท่งเทียนสีเเดงแบบ Marubozu ที่
มีราคาเปิดต่ำกว่าราคาปิดของแท่งที่สามมาเป็นแท่งต่อไป
ก็จบไปแล้วนะครับ สำหรับ แท่งเทียนทั้ง 2 EP.
หวังว่าบทความ #Forexมือใหม่ จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกท่าน (รวมถึงตัวผมเช่นกัน แหะๆ)
สำหรับตอนหน้าจะเป็นอะไรต่อwxนั้น ฝากติดตามทาง LiteForex นะครับ แล้วเจอกัน
ที่มา https://bit.ly/3wnGvVd